arabera Worapol Panpeng 4 years ago
947
Honelako gehiago
แหลมตาชี หรือแหลมโพธิ์ เป็นหาดทรายขาวยื่นต่อจากหาดตะโละกาโปร์ไปในทะเลอ่าวไทยทางทิศเหนือยาว 11 กม. เป็นป่าสนทะเล หาดทรายขาวสะอาด เหมาะสำหรับตากอากาศและเล่นน้ำทะเล อยู่ในเขตตำบลตะโละกาโปร์ การเดินทางไปแหลมตาชีไปได้ 2 ทาง คือ ทางน้ำ นั่งเรือจากปากแม่น้ำปัตตานีตรงไปยังแหลมตาชีเลย ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ นั่งเรือจากท่าด่านอำเภอยะหริ่ง ออกมาตามคลองยามู จนถึงทะเลในไปจนถึงแหลมตาชี ทางบก จากอำเภอยะหริ่ง ข้ามคลองยามูมาตามสะพานไม้ มีถนนตัดเข้าไปประมาณ 10 กม. จนถึงหมู่บ้านที่ 2 ตำบลตะโละกาโปร์ และนั่งเรือหางยาวต่อไปจนถึงปลายแหลม แหลมตาซีหรือแหลมโพธิ์มีหาดทรายขาวสะอาด ทรายสวยมาก แหลมยื่นลงไปในทะเลอ่าวไทยยาว 11 กิโลเมตรครับ
Laem Ta Chi or Laem Pho A white sand beach extended from Talo Ka Po in the Gulf of Thailand to the north length of 11 km, a pine forest. White sand beach Perfect for vacation and swimming in the sea. In Tambon Talo Capo's. A trip to the sharp eyes pointing 2 is the waterways by boat from the mouth of Pattani River to the Cape Tachi yet. It takes over an hour Boat from the port of entry Yaring district. According to Canal Yamu In the sea to the Cape Tachi land from the district rights reserved. Yamu Canal under the bridge. A road about 10 km from the village of Capo's 2nd District Talo. And continued until the boat tipped. Plus or Laem Pho Cape of white sand beaches beautiful promontory jutting into the Gulf of Thailand, 11 kilometers long on
สกายวอล์ก (Sky Walk) ชื่อที่หลายๆคนเคยได้ยินและอาจจะแปลความหมายว่าเป็นสถานที่ผจญภัยของผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าการผจญภัยในรูปแบบของธรรมชาติ สอดแทรกความสนุกสนานและความตื่นเต้น โดยสำคัญที่สุดส่วนใหญ่แล้วในการสร้าง Sky Walk ต้องเป็นสถานที่ที่มีธรรมชาติที่สวยงามมีความหลากหลาย ไม่ว่าพืชพรรณ ต้นไม้ สัตว์นานาชนิดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมและร่วมสนุกกับการผจญภัยชนิดที่ว่า “มาแล้วต้องกลับมาใหม่” จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงแม้ปัจจุบันยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น แต่การขับเคลื่อนในการพัฒนาให้เกิดความเจริญในพื้นที่ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป
ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ทวนกระแสความรุนแรง ลบภาพความสูญเสียแล้วนำสิ่งที่ดีกลับมาอีกครั้ง “Pattani Adventure Park”...แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ จ.ปัตตานี หนึ่งในชายแดนภาคใต้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยแห่งแรกและแห่งใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางเทศบาลเมืองปัตตานีได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นที่แล้วเสร็จ ในระยะที่ 1 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 10,000,000 บาท ตั้งอยู่ภายในสวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือสวนแม่ สวนลูก ม.6 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี
สวนแห่งนี้อยู่ในการกำกับดูแลของเทศบาลเมืองปัตตานี และเทศบาลได้ก่อสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์สวยงามของพรรณไม้-สัตว์น้ำป่าชายเลน และยังได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในรูปแบบความตื่นเต้นกับธรรมชาติ และวิวสวยๆ ด้วยสะพานเหล็กที่มีความสูงเกือบตึก 4 ชั้น ขณะเดินแล้วมองลงมาด้านล่างก็จะรู้สึกตื่นเต้น
นับเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แล้ว ที่ชาวปัตตานีได้อาศัยสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นศูนย์รวมความสุขของครอบครัว เป็นที่พบปะสังสรรค์ของมิตรสหาย และเป็นห้องเรียนทางธรรมชาติ ที่ทรงคุณค่ายิ่งนัก ณ ที่แห่งนี้ จึงเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ของชาวปัตตานี บ้านที่ประกอบด้วย ความรัก ความอบอุ่น และความจงรักภักดี สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ปัตตานี เป็น 1 ใน 12 สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาส ที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อปี พุทธศักราช 2523 เป็นสวนสาธารณะประจำเขตการศึกษา 2 และเป็นสวนแห่งเดียวที่อยู่ติดชายทะเล ที่มีทัศนียภาพงดงามแตกต่างไปจากสวนอื่น ๆ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ปัตตานี เป็นสวนที่ต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง และพัฒนายาวนานกว่า 10 ปี เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย แต่ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และความศรัทธาของชาวปัตตานี จึงทำให้สวนแห่งนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์ กลายเป็นสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของพื้นที่เขตการศึกษา 2 ในปัจจุบัน สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ปัตตานี ได้ดำเนินการก่อสร้างด้วยความร่วมมือร่วมใจ ของภาคราชการ องค์กรภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวปัตตานี โดยมีเทศบาลเมืองปัตตานีเป็นหน่วยงานสำคัญในการดำเนินงานจัดสร้าง
It's been over 10 years since the Princess Mother has lived in Pattani This is a place for recreation. An embodiment of a happy family. A gathering of friends And as a natural classroom Invaluable shot at this is like a big house of Pattani. The house consists of warm love and devotion. Princess Mother Pattani is one of the 12 parks built by the Cabinet. In honor of HRH the Princess Royal Mother minister. On the occasion His Majesty the age of 80 years old when the 2523 Constitution Park District 2 Education and is the only park next to the beach. With magnificent views differed from other parts of the Princess Mother Pattani is the part that takes time to build. And developed more than 10 years due to unfavorable environmental conditions. However, with the anthem of HRH the Princess Royal Mother minister. And faith of the people of Pattani As a result of this garden is completed. Became one of the most beautiful gardens in the area of 2 Princess Mother Pattani. The construction was carried out with the cooperation of the private sector, public sector organizations. As well as brothers, the people of Pattani The Municipality of Pattani agency in the building.
เล่ากันว่า สร้างโดยลิ้มโต๊ะเคี่ยม ซึ่งเป็นชาวจีนได้มาแต่งงานกับธิดาพระยาตานีและได้เปลี่ยน มานับ ถือศาสนาอิสลาม ต่อมาน้องสาวของลิ้มโต๊ะเคี่ยมชื่อลิ้มกอเหนี่ยว ได้ลงเรือสำเภามาตามให้พี่ชายกลับ เมืองจีนแต่ไม่สำเร็จ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้สร้างมัสยิดกรือเซะขึ้น ลิ้มกอเหนี่ยวจึงได้สาปแช่ง ขออย่าให้สร้าง มัสยิดสำเร็จ และตัวเองได้ผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้จัดการฝังศพน้องสาวไว้ที่หน้า มัสยิดนี้ ชาวปัตตานีนำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะเป็นรูปบูชาและสร้างศาลเจ้า ต่อมาได้มีการ อัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมาประดิษฐานไว้ ณ ศาลเจ้าแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนอาเนาะรู ในเขตเทศบาล เมืองปัตตานี เรียกว่าศาลเจ้าเล่งจูเกียง ( ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) เป็นที่นับถือของชาวปัตตานี และชาวจังหวัด ใกล้เคียง ในเดือน 3 ของทุกปี ( กุมภาพันธ์-มีนาคม ) จะมีพิธีเซ่นไหว้และแห่เจ้าแม่ นับว่าเป็นพิธีที่สนุก- สนานมาก ส่วนมัสยิดกรือเซะก็เป็นไปตามคำสาป เพราะไม่สามารถสร้างเสร็จได้ เมื่อจะสร้างต่อก็ให้มีอาเพศ ฟ้าผ่าทุกครั้งไป จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครกล้าสร้างมัสยิดกรือเซะต่อ คงเหลือซากทิ้งไว้ตราบเท่าทุกวันนี้
That's the way it is. The Chinese have married a daughter Tanya and changed to Islam. Later, the sister of the table, Kiam Lim. The junk boat came along to the brother back. Chinese cities, but not successful. I have to make a mosque. Limbaugh has cursed. Let's not build a mosque and we ourselves tie the dead neck at the cashew tree. Leaning on the table, the young woman was buried in front of this mosque. Later it has. Invitation of the goddess Lim Gok to be enshrined in the new shrine. Located in Anon Ru Road in Pattani Municipality, it is called Chieng Jieng Shrine (Lim Maek Shrine). In the third month of every year (February - March), there will be a ceremony and a goddess parade. It is a fun-filled ceremony. The mosque is based on the curse. I can not finish. When it comes to building, it gives a miracle. Lightning every time So far no one has dared to build a mosque. Remains left as long as today.
ลิ้มกอเหนี่ยว หรือกอเหนี่ยวแซ่ลิ้ม เดินทางจากเมืองจีน โดยคุมเรือสำเภามา ๙ ลำ เพื่อติดตามพี่ชายชื่อลิ้มเตาเคียน (หรือลิ้มโต๊ะเคี่ยม) ซึ่งเดินทางมาค้าขายที่ปัตตานี และหายไปจากบ้านมานานหลายปี บิดามารดาและญาติพี่น้องพากันเป็นห่วง น้องสาวจึงอาสาติดตามพี่ชาย และตั้งสัจจะวาจาไว้ว่าหากทำการไม่สำเร็จ นางจะขอยอมตาย ในที่สุดลิ้มกอเหนี่ยวเดินทางถึงปัตตานี และพบพี่ชาย ขณะนั้นเป็นนายช่างกำลังสร้างมัสยิดที่บริเวณบ้านกรือเซะ และกำลังหล่อปืนใหญ่เพื่อถวายรายอฮีเยา สตรีเจ้าเมืองปัตตานี ลิ้มกอเหนี่ยวพยายามอ้อนวอนพี่ชายกลับสู่เมืองจีน แต่ลิ้มเตาเคียนปฏิเสธบอกว่าตนเป็นมุสลิมและมีครอบครัวแล้ว น้องสาวจึงผิดหวังและเสียใจอย่างยิ่ง จึงตัดสินใจผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ใกล้มัสยิดนั่นเอง เล่ากันว่าลิ้มเตาเคียนสร้างมัสยิดไม่สำเร็จ คือก่อหลังคาครั้งใดก็ถูกฟ้าผ่าครั้งนั้น จนถึงสามครั้งสามครา มัสยิดที่กรือเซะจึงสร้างค้างคามาจนทุกวันนี้ ผู้คนพากันเชื่อว่าเพราะคำสาปแช่งของลิ้มกอเหนี่ยวนั่นเอง นอกจากนี้ยังเล่าถึงลิ้มเตาเคียนจบชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากการทดลองยิงปืนใหญ่ และปืนใหญ่กระบอกนั้นชื่อนางพญาตานี เมื่อสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ชนะศึกปัตตานี จึงนำปืนนางพญาตานีไปไว้ที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันอยู่หน้ากระทรวงกลาโหม ส่วนต้นมะม่วงหิมพานต์ต้นนั้น มีผู้นำมาแกะสลักเป็นรูปเจ้าแม่ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว นอกจากนี้ตำนานยังเล่าถึงสำเภา ๙ ลำที่นำลิ้มกอเหนี่ยว และบริวารมาสู่ปัตตานี ปรากฏว่าต่อมาสำเภา ๙ ลำ กลายเป็นสน ๙ ต้น เรียกตามภาษามลายูว่า “รูสะมิแล” (รู = ต้นสน, สะมิแล = ๙) ด้วยความเป็นผู้มีใจเด็ด กล้าหาญ มีวาจาสัตย์ และวาจาสิทธิ์ ทำให้ชาวปัตตานี และชาวจังหวัดใกล้ไกล ทั้งไทย-จีน และมุสลิมเชื้อสายจีนพากันยกย่องและศรัทธาลิ้มกอเหนี่ยวเป็นเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์มาจนทุกวันนี้ วิถีชีวิตชาวไทยจีน และมุสลิมเชื้อสายจีน รวมทั้งชาวจีนในมาเลเซียและสิงคโปร์ ยังนับถือและศรัทธาเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ศาลเจ้าแม่ในตลาดปัตตานี ทุกวันนี้จึงมีผู้คนทั้งใกล้ไกลไปนมัสการ และบนบานขอความช่วยเหลือ เช่นขอให้หายจากเจ็บไข้ได้ป่วย หรือขอให้ของหายได้กลับคืน
Lim Kor induction Lim Sae-induced or Gore From China The detention came nine ships sailing to track brother Lim Kian Stove. (Or sample table Khiem), the travel trade in Pattani. And gone from home for many years. Parents and relatives are worried as well. Sister, brother volunteered track. And the truth is that if you do not succeed. I would like to die Finally Lim Kor induced travel to Pattani and found his brother, the then Chief Engineer is building a mosque at Ban Kru Se. And a cannon foundry dedicated to redressing cases of heat. Women ruler of Pattani Gore implored his brother to pull the sample back to China. But Lim Kian Stove refused, saying that he is a Muslim and have a family. Sister so disappointed and extremely upset. Decided hanged at the cashew trees near the mosque itself
ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวหรือศาลเจ้าเล่งจูเกียง มองจากถนนจะเห็นลักษณะการสร้างอาคารหลายหลังเรียงตามลำดับความสูงของอาคาร ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ศาลเจ้าแห่งความศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปัตตานี สร้างในสมัยราชวงศ์เหม็ง ศักราชบ้วน และปีที่ 2 ตรงกับ พ.ศ. 2117 สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา เดิมเป็นศาลเจ้าประจำชุมชนของชาวจีนเมืองปัตตานี เมื่อปี พ.ศ. 2407 หลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันจงซิ่น) ร่วมกับชาวจีนในเมืองปัตตานีได้บูรณะศาลเจ้าขึ้นใหม่ ได้อัญเชิญพระหมอหรือเชงจุ้ยโจ๋วซูกงมาประทับในศาลเจ้าดังกล่าวจึงเรียกว่า "ศาลเจ้าโจ๋วซูกง" ในปี พ.ศ. 2423 หลวงจีนคณานุรักษ์(ตันจูล่าย) ได้อัญเชิญรูปจำลององค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่ที่บ้านกรือเซะตำบลตันหยงลุโละ มาประดิษฐานศาลเจ้าแห่งนี้ และเรียกชื่อใหม่ว่า "ศาลเจ้าเล่งจูเกียง" คือศาลเจ้าแห่งความเมตตาและความศักดิ์สิทธิ์ ในศาลเจ้าจะจารึกไว้ว่า "ผู้ใดศรัทธานับถือ ความศักดิ์สิทธิ์จะบังเกิดกับบุคคลนั้นเอง" เป็นที่เคารพสักการะของพี่น้องชาวไทยและชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ แต่ชาวบ้านมักเรียกขานกันต่อมาว่า "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" จังหวัดปัตตานีจะมีพิธีสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและองค์พระอื่นๆ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีนับเป็นเทศกาลงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัดปัตตานีสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด เกิดเมื่อ วันศุกร์ เดือน4 ปีมะโรง พ.ศ.2125 ณ บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีชื่อว่า “ ปู่ ” หรือ “ ปู ” บิดามีนามว่า (ตาหู) มารดามีนามว่า (นางจันทร์) มีฐานะยากจนปลูกบ้านอาศัยที่ดินเศรษฐีผู้หนึ่งไว้ชื่อ “ปาน” ตาหูและนางจันทร์เป็นข้าทาสของเศรษฐีปาน แห่งเมืองสทิงพระ ระยะที่หลวงพ่อทวดเกิด เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวในนา ในระหว่างที่พ่อแม่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ ได้ผูกเปลให้ลูกน้อยนอน ทำงานไปก็คอยเหลียวดูลูกน้อยเป็นระยะ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คือนางจันทร์ได้เห็นงูตัวใหญ่มาพันที่เปลลูกน้อยแล้วชูคอแผ่แม่เบี้ย นายหู-นางจันทร์ได้พนมมือบอกเจ้าที่เจ้าทาง อย่าให้ลูกน้อยได้รับอันตรายใดๆเลย ด้วยอำนาจบารมีของเด็กน้อยเจ้าปู่ งูใหญ่จึงคลายลำตัวออกจากเปลน้อย เลื้อยหายไป ต่อมาเมื่อพญางูจากไปแล้ว บิดามารดาทั้งญาติต่างพากันมาที่เปลด้วยความห่วงใยทารก ก็ปรากฏว่าเด็กชายปู่ยังคงนอนหลับปุ๋ยสบายดีอยู่เป็นปกติ แถมมีลูกแก้วกลมใส ขนาดย่อมกว่าลูกหมากเล็กน้อยส่องเป็นประกายอยู่ข้างตัวเด็ก ตาหู นางจันทร์ มีความเชื่อว่าเทวดาแปลงกายเป็นงูใหญ่นำดวงแก้ววิเศษมามอบให้กับลูกของตน เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่อง จึงไปพบตาหู-นางจันทร์แล้วเอ่ยปากขอดวงแก้วนั้นซึ่งตาหู-นางจันทร์ ไม่อาจปฏิเสธได้เศรษฐีปานจึงได้ลูกแก้วไปครอบครอง แต่ไม่นานนักเกิดเหตุวิบัติต่างๆกับครอบครัวของเศรษฐีบ่อยๆ พอหาสาเหตุไม่ได้เลยนึกได้ว่าอาจจะเกิดจากดวงแก้วนี้ จึงนำไปคืนให้ ตาหู-นางจันทร์เจ้าของเดิม ส่วนตาหู-นางจันทร์เมื่อได้ดวงแก้วกลับคืนมาจึงเก็บรักษาไว้อย่างดี นับแต่นั้นมาฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ก็ดีขึ้นเป็นเรื่อยๆ พออายุได้ประมาณ 7ขวบ บิดามารดาพาไปฝากไว้กับ สมภารจวง วัดดีหลวง เพื่อให้เรียนหนังสือ เมื่ออายุได้ 14ปี สมภารจวง วัดดีหลวง จึงบวชเณรให้แล้วพาไปฝากไว้กับพระครูสัทธรรมรังสี วัดสีหยง เพื่อเรียนมูลกัจจายน์
ท่านพระครูสัทธรรมรังสี องค์นี้ทางคณะสงฆ์ของแผ่นดินจากกรุงศรีอยุธยาได้ส่งท่านมาเผยแพร่ศาสนาและสั่งสอยธรรมทางภาคใต้ เมื่อ “สามเณรปู่” เรียนอยู่ได้จนอาจารย์ไม่มีอะไรจะสอนแล้วจึงได้แนะนำให้สามเณรปู่ ไปเรียนต่อที่ สำนักพระครูกาเดิม วัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อสามเณรปู่ อายุครบ 20ปี พระครูกาเดิม วัดเสมาเมือง ได้อุปสมบทตามเจตนารมณ์ของสามเณรปู่ และทำญัตติอุปสมบทตั้งฉายาว่า “ สามีราโม” โดยเอาเรือ 4ลำ มาเทียบขนานเข้าเป็นแพ ทำญัตติ ณ คลองเงียบแห่งหนึ่ง ต่อมาก็เรียกคลองนี้ว่า “คลองท่าแพ” มาจนทุกวันนี้ ซึ่งเป็นชื่อจากพิธีกรรมในครั้งอดีต
เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้ แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า ท่านลังกา หรือ สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด คำปรารภของ พระครูวิสัยโสภณ (พระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร)
The precise name for Wat Chang Hai should be Wat Ratburanaram, nevertheless villagers and devotees tended to called Wat Chang Hai meaning " Elephant Present or Elephant Give “. The history of Wat Chang Hai has been told millions of times from generation to generation, but the main attentions are Somdet Luang Pu Thuat the most famous monk in whole of Thailand and faraway land, where this great master personal history centered in the old Siam. Somdet Luang Pu Thuat is a very well-known and famous monk during the Kingdom of Ayutthaya. His Buddhist preaching was well received from Southern Thailand and right to the capital of Krung Sri Ayutthaya, where his knowledge of Dhamma and Buddhist Tripitaka has captured the heart of royalties and the commoner right through his lifetimes.
"เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ
ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้"
Three cultures
Halal Center of Excellence
Adopted the faith
Natural beauty
Pattani Province